Myth : ทำไมคนถึงเชื่อว่า... การข้ามเพศเป็นความเจ็บป่วย




Myth : ทำไมคนถึงเชื่อว่า... การข้ามเพศเป็นความเจ็บป่วย 


       “ความเป็นอื่น” เป็นคำที่ใช้อธิบายภาวะของกลุ่มคนข้ามเพศได้ดีที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าสังคมปัจจุบันจะมีความพยายามเข้าใจเรื่องเพศมากขึ้นก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าความพยายามที่จะเข้าใจเหล่านั้นจะมุ่งตรงไปที่กลุ่นคนเพศหลากหลายเสียมากกว่า ผิดกับกลุ่มคนข้ามเพศ ที่นับวันจะยิ่งถูกมองว่าแปลกแยกออกไป ทั้งจากความไม่เข้าใจของสังคมและกระแสด้านลบที่ประโคมใส่เข้ามา จนก่อให้เกิดความเชื่อผิด ๆ หรือ Myth ที่เกี่ยวกับคนข้ามเพศมากมาย ซึ่งในบทความนี้จะขอนำเสนอ Myth ยอดนิยมที่คนข้ามเพศต้องเผชิญ นั่นก็คือ “Transgender เป็นอาการป่วย”

อะไรทำให้คนเชื่อว่า Transgender เป็นโรค

       จุดเริ่มต้นของความเชื่อสุด Discrimination นี้ต้องย้อนกลับไปยังช่วง 1950s ที่ศาสตร์การแพทย์จากต่างประเทศเข้ามามีอิทธิพลในประเทศไทย เกิดเป็นความพยายามที่จะอธิบายหรือให้คำนิยามเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ ด้วยองค์ความรู้ในขณะนั้น สำหรับภาวะข้าวเพศที่สังคมในตอนนั้นให้คำนิยามว่ากะเทย ก็ไม่พ้นต้องถูกศึกษาและตีตราเช่นกัน โดยโต้โผในเรื่องนี้คือ นายแพทย์สุด แสงวิเชียร และนายแพทย์อรุณ ภาคสุวรรณ ที่ได้ศึกษาจากกลุ่มผู้ต้องขังที่เป็นกะเทยในเรือนจำบางขวาง ซึ่งนายแพทย์สุดได้สรุปว่า กะเทย ควรเป็นคำที่ใช้เรียกภาวะความผิดปกติของเพศทางกายภาพมากกว่า เนื่องจากการศึกษาผู้ที่เป็นกะเทยนั้นไม่พบความผิดปกติทางกายภาพใด ๆ และนายแพทย์สุดก็ได้ประดิษฐ์คำว่า ลักเพศ ขึ้นมานิยามภาวะดังกล่าว โดยอธิบายว่าเป็นการลักขโมยเอาอัตลักษณ์ของเพศตรงข้ามมาเป็นของตนเอง ดังนั้นภาวะการข้ามเพศดังกล่าวจึงถือเป็นอาการทางจิตซึ่งสามารถรักษาให้หายได้ คำว่า “สามารถรักษาให้หายได้” นี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้น เนื่องจากการศึกษาและองค์ความรู้เรื่องเพศในช่วงนั้นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากงานตีพิมพ์ชิ้นนี้ จึงเกิดการการสร้างภาพจำว่าการเป็นคนข้ามเพศหรือกะเทยนั้นเป็นอาการป่วยและต้องได้รับการรักษา และเนื่องจากผลพวงของระบบสองเพศที่ฝังแน่นในสังคม การตีตรานี้จึงลามไปถึงความหลากหลายทางเพศอื่น ๆ เช่นกัน ทำให้ความเป็นอื่นของกลุ่มคนเหล่านี้เด่นชัดขึ้นไปอีก

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้การข้ามเพศดูจะเป็นอาการป่วยจริงๆนั้น คือการเลือกปฏิบัติที่คนข้ามเพศจะต้องเผชิญมาตลอด อย่างที่ทราบกันดีว่า คนข้ามเพศนั้นต้องเผชิญกับข้อท้าทายที่มากกว่าคนที่เป็นชายหญิงตรงเพศ เริ่มตั้งแต่ในระดับครอบครัวที่มักจะต้องเผชิญความรุนแรงและการขับไล่ จนถึงระดับสังคมที่ความไม่เข้าใจและเกลียดกลัวคนข้ามเพศสามารถบั่นทอนศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ของคนคนั้นลงได้ ความท้าทายเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อจิตใจของคนข้ามเพศอย่างมาก จนทำให้เกิดเป็นแผลทางจิตใจและแสดงออกมาในลักษณะของการป่วยทางจิตจริงๆ ทั้งภาวะซึมเศร้า การหวาดระแวง ความรู้สึกผิดจากการข้ามเพศ และอื่นๆมากมาย 


สิ่งที่คนข้ามเพศต้องเผชิญมาตลอดจากการตีตรานี้นั้น แน่นอนว่าคือการถูกมองเป็นของแปลก ไม่เข้าพวกกับสังคม เนื่องจากการถูกมองว่าเป็นโรคนั้นคือความผิดปกติและต้องได้รับการรักษาเสียก่อน ในที่นี้คือ การหายขาดจากความต้องการที่จะเป็นในตัวตนจริงของคนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่มนุษย์ทุกคนพึงมีเป็นพื้นฐานและจะเกิดการละเมิดไม่ได้ แต่เนื่องจากสังคมที่มีพื้นฐานที่ยึดโยงกับระบบสองเพศได้กำหนดมาว่า เพศจะถูกกำหนดโดยเครื่องเพศที่ผู้ให้กำเนิดมอบให้เท่านั้น ทำให้การข้ามเพศกลายเป็นสิ่งที่อยู่นอกบรรทัดฐาน และนั่นก็จะตามมาด้วยการถูกคาดหวังและกดดันให้คนข้ามเพศต้องล้มเลิกความต้องการนั้นเสีย จากทั้งการกระทำและคำพูดที่มักจะเน้นย้ำถึงเพศกำเนิดของคนคนนั้น โดยอ้างถึงเหตุผลจากการตีตราดังกล่าว

และหนึ่งในผลกระทบที่ใหญ่หลวงที่สุดของการตีตรานี้คือ การส่งเสริมระบบสองเพศ เนื่องจากการตีตราดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นบนฐานความคิดของระบบสองเพศที่มองว่าเพศมีแค่หญิงกับชาย ซึ่งถูกกำหนดเพศโดยเครื่องเพศที่ติดตัวมาแต่กำเนิด การที่คนคนหนึ่งมีความรู้สึกถึงเพศของตนที่ไม่ตรงกับเพศกำเนิดจึงเป็นสิ่งที่ผิดจากแนวคิดดังกล่าว เหตุนี้เองที่ทำให้สังคมมองว่าการข้ามเพศเป็นอะไรที่นอกเหนือจากความปกติตามระบบ และเกิดการแบ่งแยกการข้ามเพศออกไป การตีตราว่าโรคจิตนี้จึงเป็นหนึ่งในการกระทำที่เกิดขึ้นมาจากระบบสองเพศ และกลายเป็นเหตุผลหนุนเสริมให้ระบบสองเพศเป็นความปกติมากขึ้น


เมื่อถูกตีตราว่าเป็นโรค จึงเกิดการคาดหวังถึงการรักษา แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับคนข้ามเพศอย่างแน่นอน และอันที่จริงก็เกิดขึ้นกับหลายๆคนอยู่แล้ว เพียงแต่ว่า การข้ามเพศนั้นแท้จริงแล้วคือหนึ่งในความหลากหลายของมนุษย์ที่เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งอธิบายได้ด้วยการปรากฏขึ้นของความหลากหลายทางเพศที่มีคู่กับสังคมมนุษย์มาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังไม่มีเหตุผลใดๆที่เหมาะสมจะเข้ามาโต้แย้งกับเจตจำนงอิสระที่เป็นหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ หลักการสำคัญที่จะเข้ามายืนยันถึงความปกติของ คนข้ามเพศ คือหลักการ Self determination

Self determination คือหลักการที่ว่าด้วยมนุษย์ทุกคนนั้นล้วนมีสิทธิ์ในการกำหนดกระกระจำ, เจตจำนง, และความเป็นไปของตนเองโดยปลอดภัยจากอิทธิพลภายนอก หลักการนี้ถือเป็นสิทธิ์พื้นฐานสอดแทรกอยู่ในในหลายๆเรื่องและในทุกระดับของสังคมอย่างกลมกลือ อย่างการเรียกร้องการกระจายอำนาจที่มีการผลักดันอยู่ในปัจจุบันหรือการพูดถึงสิทธิ์ในเนื้อตัวและการแต่งกายของเยาวชน ก็ล้วนมีพื้นฐานมาจากหลักการนี้และนั่นรวมถึงการที่คนคนหนึ่งสามารถยืนยันได้ว่าตนเองเป็นเพศอะไร โดยจะต้องไม่ถูกผูกมัดอยู่กับบรรทัดฐานทางเพศที่ถูกกำหนดขึ้นโดยสังคม ซึ่งในที่นี้ก็คือระบบสองเพศอันเป็นรากฐานในการเกิดแนวคิดต่างๆในสังคมปัจจุบัน ดังนั้น การที่คนคนหนึ่งจะเกิดความรู้สึกไม่สบายใจในเพศของตนที่ถูกกำหนดโดยสังคม และเลือกที่จะออกมายืนยันในสิ่งที่ตนเองนั้นเป็นจริงๆจึงถือเป็นสิทธิ์ตามหลักการ Self determination ที่ไม่ก้าวก่ายผู้ใด

       ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาจะมีการศึกษาหรือความพยายามทำความเข้าใจในภาวะข้ามเพศอยู่มากมาย แต่การศึกษาแทบทั้งหมดนั้นตั้งต้นบนฐานคิดระบบสองเพศ จึงไม่พ้นที่จะมีการมองภาวะข้ามเพศ (รวมถึงเพศหลากหลายอื่น ๆ ) อย่างแปลกแยกและกดต่ำตั้งแต่เริ่ม องค์ความรู้ต่าง ๆ ที่ผลิตขึ้นมาก็ล้วนเป็นการสร้างเหตุผลให้การแบ่งแยกนั้นมีความชอบธรรมมากขึ้น ทั้งนี้ ก็ได้มีการเคลื่อนไหวจากทั้งภาคประชาสังคม นักกิจกรรมคนข้ามเพศและเพศหลากหลาย และนักสิทธิมนุษยชนทั่วโลกเพื่อแก้ไของค์ความรู้และรณรงค์ถึงความเข้าใจที่ถูกต้อง รวมถึงการศึกษาใหม่ๆที่ยืนยันว่า การข้ามเพศนั้นไม่เกี่ยวอะไรกับการเจ็บป่วยเลย แต่เป็นเพียงความต้องการที่จะเคารพในตนเองเพียงเท่านั้น


อ้างอิง

From Is being trans a mental illness? — TransHub, by TransHub, n.d, www.transhub.org https://www.transhub.org.au/101/mental-illness#:~:text=Distress%20and%20impairment%2C%20considered%20essential,on%20an%20unfortunately%20regular%20basis.

อภิมุข สดมพฤกษ์. 2558. การศึกษากระบวนการตีตราทางสังคมที่ทำให้บุคคลกลายเป็นผีปอบ [วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์]. libdcms.nida.ac.th. https://libdcms.nida.ac.th/thesis6/2558/b191046.pdf

From Why Transgender People Experience More Mental Health Issues, by Katherine Cullen, 2016, Psychology Today https://www.psychologytoday.com/au/blog/the-truth-about-exercise-addiction/201612/why-transgender-people-experience-more-mental-health.


ผู้เขียน: นรเศรษฐ์ พัฒนางกูร